ต้อม เรนโบว์

ต้อม  เรนโบว์ หรือพีระพงษ์  พลชนะ เป็นชาวจังหวัดนครพนม โดยกำเนิด จบการศึกษาเบื้องต้นที่โรงเรียนปิยะมหาราชาลัย ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยมประจำจังหวัดนครพนม หลังจากนั้นมาศึกษาต่อที่วิทยาลัยเทคนิคนครพนม ด้วยเป็นครอบครัวนักดนตรี คือ มีคุณพ่อเป็นนักดนตรี ทำให้ต้อมเรนโบว์ มีความสามารถในการเล่นดนตรีและร้องเพลงตั้งแต่สมัยมัธยม ต้อม  เข้ากรุงเทพฯ มาเป็นสมาชิกวงอินทนิล ที่เป็นวงดนตรีวงแรกของ บริษัทอาร์เอส เขาจึงถือว่าเป็นนักร้องรุ่นแรกๆของอาร์เอส พร้อมๆกับอ๊อด คีรีบูน อ๊อดบรั่นดี หลังวงอินทินล ยุบ ในปี 2528 ต้อม และเพื่อนที่เป็นคนนครพนม ด้วยกัน อย่างอุ๋น ทวี และเพื่อนจากอินทนิล คนอื่น อย่างป๋อง มาตั้งวงเรนโบว์ ตั้งแต่นั้นจนประมาณปี 2540 มีอัลบั้มเพลง อันโรแมนติคและคลาสสิค ประดับวงการบันเทิงของไทย หลายอัลบั้ม และมีเพลงที่บันทึกในหน้าประวัติศาสตร์วงดนตรีไทย เช่น ลาจากเธอ ความในใจ จดหมายฉบับสุดท้าย อยากให้รู้ใจ ด้วยดวงใจ อย่าหวั่นใจ ขมิ้นกับปูน ใจเดียว ยังหวัง ขอแค่คิดถึง ช้ำเพื่อรัก ฯลฯ รวมไปถึงการนำเพลงเก่ามาร้อง ทำให้เพลงเก่ามีคุณค่า ทั้งเพลงสตริง  ลูกกรุง หรือลูกทุ่ง เช่น เพลงยากยิ่งนัก  สัญญาใจ  รักครั้งแรก ของชาตรี นักร้องรุ่นพี่ เพลงที่สุดของหัวใจ ของแจ้ ดนุพล รักฉันนั้นเพื่อเธอ ทำให้เพลงเก่าๆเหล่านี้มีชีวิตชีวา มีคุณค่าไม่เสื่อมคลาย และในปัจจุบัน ด้วยความที่ต้องการส่งเสริมและอนุรักษ์เพลงลาว ในฐานะที่ต้อม มีเลือดเนื้อเชื้อไขนครพนม ที่มีความผูกพันทางสายเลือดกับลาว และมีภรรยาเป็นคนลาว (ฝรั่งเศส) เขานำเพลงอมตะของลาว มาทำดนตรีและร้องใหม่ ทำให้เพลงดังกล่าว มีคุณค่าอีก แม้ต้อม  เรนโบว์ จะดูเหมือนจะห่างหายไปจากวงการดนตรีไทย  แต่เขาไม่เคยห่างหายไปจากเสียงเพลงและเสียงดนตรี แม้อายุจะมากขึ้น แม้จะไม่ได้อยู่เมืองไทย ดุจสายรุ้งที่ไม่มีวันสูญหายไปจากสายฝนและฟากฟ้า อันเป็นถ้อยคำ ที่แสดงออกถึงตัวตนแห่งความเป็นเรนโบว์